วันรอมฎอน ความสำคัญของเดือนรอมฎอน ความประเสริฐของเดือนรอมาฎอน
เดือนรอมาฎอนเป็นเดือนหนึ่งของฮิจเราะห์ศักราช และเป็นเดือนหนึ่งทีประเสริฐของอิสลาม และในเดือนรอมาฎอนนี้ มีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนนี้
ท่านพี่น้องทั้งหลาย ท่านทราบหรือไม่ว่า เหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างที่เกิดขึ้นในเดือนอันประเสริฐนี้ นั่นก็คือ
- การถือศีลอด ถูกประทานลงมาในเดือนรอมาฎอน
- คืนลัยละตุ้ลกอดรฺ ถูกปรากฏขึ้นในเดือนรอมาฎอน
สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ชี้ถึงความประเสริฐของเดือนรอมาฎอน ซึ่งความประเสริฐนี้คงไม่มีผู้ที่จะปฏิเสธต่อสิ่งดังกล่าว ดังที่พระดำรัสของอัลเลาะห์ได้กล่าวในกุรอาน ซูเราะห์ อัลบากาเราะห์ อายะห์ที่ 183
ความว่า "โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ได้มีบัญญัติแก่พวกเจ้าทั้งหลายให้ทำการถือศีลอด ประดุจที่เคยบัญญัติมาแล้วแก่บรรดาชนยุคก่อนหน้าพวกเจ้า ทั้งนี้เพื่อพวกเจ้าจะได้มีความยำเกรง "
ซึ่งจากโองการข้างต้นนี้ชี้ให้เห็นว่า การถือศีลอดได้ถูกบังคับใช้เหนือศรัทธาชนผู้ที่มีความศรัทธายิ่งในหัวใจของ เขาต่ออิสลาม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีฐานะหรือเกียรติยศอันสูงศักดิ์ก็จำเป็นจะต้องอยู่ใต้ ข้อบังคับใช้ของศาสนาอิสลามโดยไม่มีข้อปฏิเสธ จำเป็นจะต้องอยู่ในหนทางของอิสลามประดุจดังที่เคยบัญญัติการถือศีลอดนั้นแก่ บรรดาชนยุคก่อนหน้าพวกเจ้า ทั้งนี้เพื่อพวกเจ้าจะได้ยำเกรงต่อคำสั่งใช้ของพระองค์
อิสลามได้กำหนดการถือศีลอดเป็นกฎเกณฑ์ของอิสลาม จริงหรือไม่อิสลามได้บังคับ (ฟัรดู) การถือศีลอดกับบรรดามุสลิมทุกๆคน การถือศีลอดนั้นเป็นวายิบเหนือมุสลิมทุกๆ คนที่จำเป็นต้องกระทำ แต่อิสลามได้แบ่งหรือกำหนดการถือศีลอดให้กับผู้ที่บรรลุนิติภาวะที่มีสติ สัมปชัญญะ (ไม่ใช่คนบ้า) และเป็นผู้ที่มีความสามารถถือศีลอดได้ตลอดรอมาฎอน นี้คือสิ่งหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความรอบครอบที่กำหนดไว้ในหนทางของอิสลาม
อิสลามได้กำหนดกฎเกณฑ์ในการถือศีลอด (อะห์กาม เศามฺ รอมาดอน ) ดังต่อไปนี้
1. อัลเลาะห์ได้ลงฟัรดูในผู้ที่ถือศีลอด จากการยับยั้งอารมณ์จากการกิน การดื่ม การร่วมเพศ สำหรับมุสลิมที่บรรลุนิติภาวะในเดือนรอมาฎอนของทุกๆปี จากช่วงเวลาตั้งแต่แสงอรุณขึ้นจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตก พร้อมกับการเหนียต และเป็นผู้ที่ปราศจาก เฮด และ นิฟาส
2. อนุมัติให้ผู้ป่วย หญิงมีครรภ์ หญิงที่ให้นมลูกและผู้เดินทาง ทำการละศีลอด จนกระทั่งกลับมาถือศีลอดในสิ่งที่เขาละทิ้งไป หลังจากการหายป่วยของผู้ป่วย
3. ผู้ที่ป่วยที่ไม่มีความหวังที่จะหาย โดยคำวินิจฉัยของแพทย์ ก็ให้ทดแทนการถือศีลอดด้วยการเสียฟิตยะห์ คือการให้อาหารแก่คนยากจนทุกๆวัน
4. การฉีดยาซึ่งที่จะถูกเข้าไปยังใต้ผิวหนัง
5. การกินการดื่ม ไม่เสียการถือศีลอดในขณะที่ลืม
6. การละศีลอดโดยเจตนา จำเป็นจะต้องถือศีลอดชดใช้
7. ผู้ที่ทำการร่วมประเวณีในตอนกลางวันในขณะถือศีลอดในเดือนรอมาฎอน จำเป็นต้องชดใช้ ด้วยการจ่าย (กัฟฟาเราะห์) คือการปล่อยทาส ถ้าหากไม่มีความสามารถ ก็ให้ถือศีลอดสองเดือนติดต่อกัน หรือ ให้อาหารแก่คนยากจน 60 คน
8. ผู้ที่ทำการร่วมเพศในตอนกลางคืน และตื่นมาในสภาพที่มียุนุบ หลังจากเข้าเวลาซุบฮิ การถือศีลอดนั้นถือว่าใช้ได้ และจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำ
9. ผู้ที่นอนฝันในตอนกลางวัน จะไม่เสียการถือศีลอด แต่จำเป็นต้องอาบน้ำ
10. การชดใช้การถือศีลอดในเดือนรอมาฎอน อนุญาตให้ชดใช้ในปีเดียวกัน หรือ ล่าช้าไปในปีถัดไป
อันที่จริงท่านนาบีมุฮำหมัด ศ็อลฯ ให้ความสำคัญกับเดือนอันประเสริฐนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเดือนอื่นๆ ซึ่งมีฮาดิษมากมายที่ถูกกล่าวถึงเดือนรอมาฎอน นอกจากนี้อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ทรงให้เกียรติกับประชาชาติของ มุฮำหมัดกับเดือนรอมาฎอนมากกว่าการให้เกียรติกับประชาชาติของนบีองค์อื่นๆ
มีรายงานจากท่านบัยฮากี ว่า ท่านนาบีมุฮำหมัด ศ็อลฯ ได้กล่าวว่า อัลเลาะห์ได้ทรงประทานให้กับประชาชาติของฉันในเดือนรอมาฎอน 5 ประการ ซึ่งไม่เคยถูกประทานให้กับนาบีอื่นนอกจากฉัน (มุฮำหมัด ซ็อลฯ)
1. เมื่อผู้ถือศีลอดทำการถือศีลอดในคืนแรกจากเดือนรอมาฎอน อัลเลาะห์นั้นจะมองดูพวกเขา และพระองค์จะไม่ลงโทษพวกเขาตลอดไป
2. กลิ่นปากของผู้ถือศีลอด ณ ที่อัลเลาะห์นั้นหอมยิ่งกว่ากลิ่นชมดเชียง
3. บรรดามะลาอิกะห์ จะกล่าวขออภัยโทษให้กับเขาในทุกๆวันและทุกๆคืน
4. แท้จริงอัลเลาะห์ (ซ.บ.) จะทรงประทานสวนสวรรค์ให้กับพวกเขา ดังนั้นพวกเขากล่าวว่า ฉันจะเตรียมความพร้อม และประดับประดาตัวฉัน ด้วยกับการทำอิบาดะห์ที่เป็นสุนัตในยามค่ำคืน
5. อัลเลาะห์ (ซ.บ.) จะทรงอภัยโทษให้กับพวกเขาทั้งหมดในช่วงท้ายของค่ำคืน
มีชายคนหนึ่งได้กล่าวว่า นี่หรือคือ ลัยละตุลกอดรฺ นาบีกล่าวว่า ไม่ใช่ ท่านไม่ได้มองไปยังคนงานหรอกหรือ เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นจากการทำงาน พวกเขาก็ย่อมได้รับค่าตอบแทน
จาก คำกล่าวของชายคนนั้นที่ถามท่านนบีว่า นี่หรือ คือ ลัยละตุลกอดรฺ นบีกล่าวว่า ไม่ใช่ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเดือนรอมาฎอน และการแสวงหา หรือขวนขวาย ในการกระทำอิบาดะห์ในเดือนรอมฎอนนั้นสำคัญยิ่ง แน่นอนผู้ที่ทำอิบาดะห์ในเดือนรอมาฎอน ก็เหมือนกับคนงาน เมื่อเขาทำงาน เขาก็ต้องได้รับค่าตอบแทนจากนายจ้าง ฉันใดก็ฉันนั้น มุสลิมที่ศรัทธามั่นในเอกองค์อัลเลาะห์ (ซ.บ.)และทำอิบาดะห์ ก็จะได้รับการตอบแทนจากอัลเลาะห์ (ซ.บ.) ทั้งในดุนยา และอาคิเราะห์ อินชาอัลเลาะห์
ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ท่านเคยได้ยินกับคำกล่าวของคนต่างศาสนิกหรือไม่ว่า การที่มุสลิมทำการถือศึลอดนั้นเป็นการทำร้ายตัวเอง และทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
จากสิ่งดังกล่าวนี้ ท่านนบีมุฮำหมัด ได้กล่าวไว้ว่า ท่านจงทำสงครามแล้วท่านจะได้รับทรัพย์จากเชลยศึก และท่านจงถือศีลอดแล้วท่านจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และท่านจงเดินทางแล้วท่านจะได้รับความมั่งคั่ง
จากข้อความดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการถือศีลอดนั้นไม่ได้ทำให้สมรรถภาพนั้นลดหย่อนลง และมิได้ทำให้สุขภาพนั้นอ่อนแอ แต่การถือศีลอดจะทำให้มีความแข็งแกร่งขึ้นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ฉtนั้นประโยชน์ของการถือศีลอดนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้น ปราศจากความหยิ่งยโส โอ้อวด และ มีประโยชน์ทางด้านร่างกายเช่น เป็นการป้องกันโรคติดต่อ โรคระบาดที่จะแพร่กระจายสู่ร่างกาย เป็นการป้องกันและรักษาร่างกายจากโรค ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และยับยั้งการอักเสบหรือกำเริบจากโรคต่างๆ และทำให้ลำใส้สะอาดปราศจากอาหารที่เป็นพิษ และแก๊สในลำใส้ และเป็นการลดไขมันส่วนเกินของร่างกาย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจ
ขอบขอบคุณข้อมูล ความสำคัญของเดือนรอมฎอน จาก : ความประเสริฐของเดือนรอมาฎอน - bamroongsasna.com